รอง ผบช.น.เผยนายปริญญ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มอบตัวกับตำรวจ สน.ลุมพินี พร้อมปฏิเสธทุกข้อหา นัดฝากขังพรุ่งนี้ ยืนยันไม่หนักใจทำคดี เตรียมเสนอศาลตั้งเงื่อนไขห้ามเดิอนทางออกนอกประเทศ พร้อมประสาน ตม.กันหลบหนี
วันนี้( 16 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางมาที่ สน.ลุมพินี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี คดีข่มขืนหญิงสาว พร้อมกับให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า สำหรับคดีนี้ตัวผู้ต้องหาได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ก่อนที่จะมีการดำเนินการไปขอหมายจับ ดังนั้นทางพนักงานสอบสวน จึงต้องดำเนินการ แจ้งข้อหา และปล่อยตัวก่อนนัดหมายผู้ต้องหามาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ อีกครั้ง ในวันพรุ่งนี้เวลา 08.00 น. สำหรับข้อหาที่มีการแจ้งผู้ต้องหาไป มีทั้งสิ้น 3 ข้อหา ใน 3 คดี คือคดีแรก ที่ทนายษิทราพาผู้เสียหายอายุ 18 ปี มามีการแจ้งข้อหา กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล ส่วนคดีที่ 2 ในส่วนของแฟนสาวไฮโซลูกนัท แจ้งข้อหา ข่มขื่นกระทำชำเราผู้อื่น และคดีสุดท้าย ที่ผู้เสียหายเป็นเยาวชนอายุ 18 อีกรายที่เข้าแจ้งความวานนี้ แจ้งข้อหา กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล ซึ่งในส่วนของตัวผู้ต้องหาได้มีการปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา พร้อมให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับข้อเท็จจริง ฝั่งตนเอง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เก็บรวบรวมไว้ในสำนวน
ในส่วนของการป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ ได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว แต่หากในวันพรุ่งนี้ตามเวลานัดหมาย ผู้ต้องหาไม่เดินทางเข้าพบกับพนักงานสอบสวนที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ทางตำรวจจะมีอำนาจโดยชอบธรรม ที่สามารถจับกุมตัวได้ทันทีโดยไม่ต้องมีการขออนุมัติหมายจับจากศาล
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ ผบ.ตร.และ ผบช.น.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น.ดูแลด้านกฎหมาย กำกับดูแลคดีด้วยตัวเอง ซึ่งคดีนี้โรงพักสามารถทำเองได้ แต่อาจนำชุดสืบสวน บก.น.5 มาร่วมทำงานกรณีมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม แต่ตอนนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา ยืนยันว่าไม่หนักใจที่ผู้ต้องหาเป็นบุคคลมีตำแหน่งทางการเมือง เพราะตำรวจยึดหลักตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นใครต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เราทำงานตามกรอบกฎหมายอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม รวมถึงมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีต่อคดีนี้ อย่างไรก็ตาม ในการฝากขัง ตำรวจจะขอให้ศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามเจ้าตัวออกนอกประเทศ เพราะผู้ต้องหามีบ้านพักในต่างประเทศ รวมถึงคดีมีโทษหนักและผู้เสียหายหลายคน พร้อมกันนี้ก็ได้ประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อจับตาเฝ้าระวังการหลบหนีไว้แล้
ด้าน นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท ได้เดินทางมาที่ สน.ลุมพินี พร้อมกับระบุถึงคดีรองหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคใหญ่พรรคหนึ่ง ทำการลวนลามและข่มขืนหญิงสาวหลายราย ว่า มีรายละเอียดอีกจำนวนไม่น้อยที่ตนอยากขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน ขณะนี้สภาพจิตใจของภรรยาเริ่มอ่อนล้า ด้วยความที่ภรรยาอาจไม่ช่ำชองในการให้สัมภาษณ์ และยังมีข้อมูลที่ตกหล่น จึงให้ตนเป็นคนพูดแทน และข้อมูลของเหยื่อรายอื่นๆ รวมถึงมุมมองของตนเองที่ต้องดูแลภรรยา และเหยื่อรายอื่น เชื่อว่าหลายคนเริ่มมีคนใกล้ตัวตกอยู่ในสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกัน อยากให้เข้าใจถึงกรณีเช่นนี้ และเห็นใจผู้เสียหาย ทั้งนี้ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้ามาหานายปริญญ์แต่อย่างใด เพราะหากตนต้องการพบเจอ ก็คงสามารถพบเจอเองได้ ไม่ต้องมาวันนี้ แต่เพราะมีสื่อมวลชน และสถานีตำรวจมีไว้บริการประชาชน จึงมาใช้สถานที่เพื่อเปิดเผยมุมมองของตนเอง
นายธนัตถ์ ระบุอีกว่า ขณะนี้มีเหยื่อติดต่อตนมาประมาณ 5-6 คน และติดต่อไปยังภรรยาของตนอีกหลายคน มีกรณีหนึ่งที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนของผู้ถูกกล่าวหา ขณะเรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งขณะนั้นเหยื่ออายุเพียง 17 ปี แต่กลับถูกผู้ถูกกล่าวหาชักชวนให้ไปสถานที่เสี่ยงต่อสถานการณ์ล่อแหลม ซึ่งเหยื่อหลายคนมีหลักฐานต่างกันไป หลักฐานส่วนใหญ่เป็นการแชท วิธีการพูดคุย แต่อยากให้สังคมเห็นใจและเข้าใจในเรื่องหลักฐานด้วย ยืนยันว่าผู้เสียหายทุกคนสามารถกล่าวถึงเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำและตรงกันเพราะใช้สถานที่เดิมๆ คำพูดเดิมๆ กับทุกคน ทั้งที่ทุกคนไม่รู้จักกันมาก่อน แต่กลับพูดแบบเดียวกัน เช่น การอ้างถึงตำแหน่งเกี่ยวกับเศรษฐกิจมาทำการชักชวนเหยื่อ โดยขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้แจ้งความคืบหน้าเรื่องการชี้จุดเกิดเหตุแต่อย่างใด
ซึ่ง ตนเองเข้าใจเหยื่อทุกคนที่ไม่กล้าเปิดเผยตัว แต่อย่างน้อยตอนนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก หากฎหมายให้ความยุติธรรมกับทุกคน จำนวนโทษก็คงเกินตลอดชีวิตแล้ว ซึ่งเรื่องความรุนแรงทางเพศนั้นเกิดขึ้นในไทยมาก ไม่อยากให้จบที่ประเด็นผู้มีชื่อเสียง หากเกิดขึ้นในชุมชนกับบุคคลทั่วไป ก็จะถูกลืมหายไป ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ตนต้องการจะสื่อ
อ้างอิง
https://m.mgronline.com/crime