ประชาชน82%ตัดใจงดสาดน้ำสงกรานต์สกัดโควิด

เรื่องที่น่าสนใจ

17 มี.ค.2564 – ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “อยากเล่นน้ำสงกรานต์…กลัวเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15 – 16 มีนาคม 2564 จากประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค รวมทั้งสิ้น 1,315 หน่วยตัวอย่าง

โดยการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีหากรัฐบาลอนุญาตให้เล่นน้ำสงกรานต์ 2564 พบว่า ส่วนใหญ่ 43.73% ระบุว่า ไม่ควรอนุญาตให้เล่นน้ำสงกรานต์ทุกพื้นที่ รองลงมา 20.45% ระบุว่า ควรอนุญาตให้เล่นน้ำสงกรานต์เฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 2 17.87% ระบุว่า ควรอนุญาตให้เล่นน้ำสงกรานต์ได้ทุกพื้นที่อย่าง New Normal เช่น สวมเฟซชิลด์ แว่นตากันน้ำ ชุดกันฝน 10.80% ระบุว่า ควรอนุญาตให้เล่นน้ำสงกรานต์ได้ทุกพื้นที่อย่างอิสระ และ 7.15% ระบุว่า ควรอนุญาตให้เล่นน้ำสงกรานต์เฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 14 วันที่ผ่านมา

ด้านความกังวลของประชาชนต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ถ้ารัฐบาลอนุญาตให้เล่นน้ำสงกรานต์ 2564 พบว่า 26.54% ระบุว่า กังวลมาก เพราะ การกลับภูมิลำเนา การรวมตัวของประชาชนเพิ่มมากขึ้นทำให้ละเลยในการเว้นระยะห่างทางสังคม ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ และสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ 38.02% ระบุว่าค่อนข้างกังวล เพราะการเดินทางเข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์จากหลายพื้นที่ทำให้ควบคุมไม่ทั่วถึง อาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนมากับน้ำ ประชาชนบางกลุ่มยังละเลยในการป้องกันตนเอง ถึงแม้จะมีวัคซีนแต่ก็ยังไม่ปลอดภัย 100% และอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ในรอบ 3 18.78% ระบุว่า ไม่ค่อยกังวล เพราะ ประชาชนส่วนใหญ่มีการดูแลและป้องกันตนเองอย่างดี หลีกเลี่ยงไม่ไปเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ภาครัฐมีมาตรการควบคุมป้องกันที่ดี และไม่ได้อาศัยในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 และ 16.66% ระบุว่าไม่กังวลเลย เพราะภาครัฐมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ดี มั่นใจในการทำงานบุคลากรทางการเเพทย์ และประชาชนส่วนใหญ่ไม่ออกมาเล่นน้ำสงกรานต์

สำหรับวิธีป้องกันตนเองหากรัฐบาลอนุญาตให้เล่นน้ำสงกรานต์ 2564 พบว่า ส่วนใหญ่ 49.28% ระบุว่า สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า รองลงมา 35.36% ระบุว่า รักษาระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร 31.94% ระบุว่า หลีกเลี่ยงการสัมผัสตัว 26.16% ระบุว่า สวมเฟซชิลด์ 23.12% ระบุว่าห้ามดื่มสุราและของมึนเมา 19.16% ระบุว่าห้ามประแป้ง 13.69% ระบุว่าหลีกเลี่ยงการให้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก 10.80% ระบุว่าห้ามสาดน้ำ 10.65% ระบุว่าสวมชุดกันฝน 10.27% ระบุว่า สวมแว่นตากันน้ำ และ 0.15% ระบุว่า วัดอุณหภูมิก่อนเข้าสถานที่เล่นน้ำ

ส่วนเรื่องที่ประชาชนกังวลมากที่สุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 พบว่า ส่วนใหญ่ 43.95% ระบุว่าอุบัติเหตุทางถนน รองลงมา 38.17% ระบุว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ที่มากขึ้น 15.29% ระบุว่า การท่องเที่ยวที่ไม่คึกคัก เศรษฐกิจซบเซา และ 2.59% ระบุว่า การเกิดอาชญากรรม

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการให้ความสำคัญระหว่างการเล่นน้ำสงกรานต์ 2564 กับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ส่วนใหญ่ 82.28% ระบุว่ายอมหยุดเล่นน้ำสงกรานต์ 2564 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ขณะที่ 15.29% ระบุว่ายอมเสี่ยงกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 เพื่อให้ได้เล่นน้ำสงกรานต์ 2564 และ 2.43% ระบุว่า ไม่แน่ใจว่าควรเลือกอะไรก่อนดี

https://www.thaipost.net/main/detail/96294